เชลซี 3 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

By Dom Oct 30, 2024

เชลซี สามารถเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมที่สามารถรักษาแชมป์ลีกสูงสุดได้อีกทีมหนึ่งหลังจากที่สามารถเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 3-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา
ทว่าความผิดหวังของแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีแค่นั้นเมื่อช่วงท้ายเกมต้องเสียรูนี่ย์ ออกจากสนามหลังจากที่เข้าปะทะกับเปาโล เฟร์เรร่า จนต้องถูกหามออกจากสนาม ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในใจของทุกคนว่ารูนี่ย์ จะสามารถฟิตทันฟุตบอลโลกกลางปีนี้ได้หรือไม่ เมื่อเหลือเวลาอีกเพียง 6 สัปดาห์ เกมฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดในโลกนี้จะเปิดฉากแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ท้ายเกมถึงอาการของรูนี่ย์ ว่าไม่น่าเป็นห่วงอย่างที่หลายฝ่ายคิดกัน
เกมนี้เฟอร์กี้ จัดตัวแตกต่างไปจากนัดที่พบกับสเปอร์ส เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น โดยหลุยส์ ซาฮา ซึ่งหายมาจากอาการบาดเจ็บได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงแทนรุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ต้องกลับไปสู่ม้านั่งสำรองอีกครั้ง
ทางด้านโฆเซ่ มูริณโญ่ เปลี่ยนทีมจากนัดที่แพ้ลิเวอร์พูล ในเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ที่แล้วหลายตำแหน่ง โดยปีเตอร์ เช็ค, อาร์เยน ร็อบเบน, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงแทนคาร์โล คูดิชินี่, เฌเรมี่ และเดล ฮอร์โน่
เกมเริ่มขึ้นอย่างสุดมัน เชลซี เริ่มครองบอลและบุกเข้าใส่แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง แต่ก็คงไม่มีใครคาดคิดกันมากนักว่าเชลซี จะได้ประตูแรกเร็วมากเพียงนาทีที่ 5 เท่านั้น หลังจากที่โรนัลโด้ โดนแลมพาร์ด เข้าเสียบสกัดที่กลางสนามแต่ไม่ได้ฟาล์ว จากนั้นแลมพาร์ด ต่อบอลให้โจ โจล บอลแฉลบกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ออกหลังทำให้เชลซี ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของสนาม
โจ โคล รับหน้าที่เตะมุมเอง โยนมาข้าศีรษะดรอกบา กระโดดโหม่งท่ามกลางนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ลูกดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่วิลเลียม กัลลาส ก็เข้ามาโฉบโหม่งระยะเผาขน หมดสิทธิ์สำหรับฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นประตูขึ้นนำให้เชลซี ไปในที่สุด
แฟนบอลในสนามเริ่มส่งเสียงเชียร์ดังขึ้นมาในทันทีทันใดราวกับว่าการเริ่มต้นเกมสำคัญได้สวยงามเช่นนี้เป็นความฝันของแฟนบอลหลายๆ คนเลยทีเดียว
ไม่กี่นาทีถัดมา เวย์น รูนี่ย์ ปะทะแย่งบอลกับจอห์น เทอร์รี่ จนเทอร์รี่ ได้รับบาดเจ็บไปพักใหญ่ ปีเตอร์ เช็ค เข้ามาโวยวายใส่ผู้ตัดสินทำให้ผู้ตัดสินตัดสินใจแจกใบเหลืองให้เช็ค ไป
เกมดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 22 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสทองที่จะตีเสมอเมื่อเวย์น รูนี่ย์ ลากบอลผ่านกองหลังเชลซี 3-4 คนหลุดเดี่ยวไปเผชิญหน้ากับปีเตอร์ เช็ค ตัวต่อตัว แต่รูนี่ย์ ก็ยิงพลาดบอลหลุดออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย แฟนบอลหลังประตูของเชลซี มีสีหน้าโล่งใจขึ้นมาจนสังเกตได้
หลังจากนั้นเชลซี มีโอกาสขึ้นนำ 2-0 เมื่อรอบเบน ต่อบอลมาให้กับเอสเซียง แต่ก็ยิงหลุดออกนอกกรอบไปไม่ได้ลุ้น จากนั้นไม่นานรูนี่ย์ ได้โอกาสยิงไกลอีกครั้ง บอลกำลังจะเสียบเสาเข้าประตูไป แต่ก็ติดมือขวาของปีเตอร์ เช็ค ออกหลังไปได้
ก่อนจบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อกิ๊กส์ เปิดบอลเข้ามาตรงกลาง ริโอ เฟอร์ดินานด์ โหม่งบอลย้อนกลับมาเข้าศีรษะจอห์น โอเชีย แต่ก็โหม่งบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรกไปอย่างน่าผิดหวังสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อต้องตามหลังเชลซีไป 1-0 จากวิลเลียม กัลลาส ตั้งแต่นาทีที่ 5 แต่อย่างไรก็ตาม เกมครึ่งแรกก็ไม่ได้แตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัดและยังคงต้องรอลุ้นผลงานในครึ่งหลังต่อไป
เปิดฉากครึ่งหลังมาได้ 4 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามที่จะตีเสมอให้ได้แล้วก็มีโอกาสขึ้นมาเมื่อซาฮา ต่อบอลให้โรนัลโด้ แต่ก็ยิงหลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกมครึ่งหลังได้อย่างงดงาม แต่ก็ไม่สามารถตีเสมอได้ นอกจากนั้นยังเสียประตูให้โจ โคล เป็นประตูให้เชลซี ขึ้นนำ 2-0 เสียด้วย จากนั้น โรนัลโด้ โดนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้เมื่อเขาไปมีปัญหากับเอสเซียง แฟนบอลในสนามเริ่มร้องเพลงเสียงดังมากขึ้นเข้าไปอีกหลังจากได้ประตูนี้
บรรยากาศในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เริ่มกลายมาเป็นบรรยากาศแห่งการฉลองมากขึ้นไปอีกหลังจากที่ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ สามารถทำประตูที่สามให้กับเชลซี ได้ในนาทีที่ 73 ช่วยยืนยันสถานภาพการเป็นแชมป์ให้กับเชลซี อย่างชัดเจน
จบเกมมีการมอบถ้วยให้กับเชลซี ซึ่งนี้เป็นการคว้าแชมป์ครั้งที่สามของพวกเขาและยังเป็นการป้องกันแชมป์ได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย เชลซี เป็นทีมแรกจากลอนดอนที่สามารถป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดได้หลังจากที่ทีมอื่นที่ป้องกันแชมป์ได้ก่อนหน้านี้ ได้แก่ เปรสตัน, วิลล่า, เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์, ลิเวอร์พูล, ปอร์ทสมัธ, วูล์ฟส์ และอีกทีมหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแมนฯ ยูไนเต็ด
ถึงเวลาแล้วสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่จะเดินหน้าต่อไปเพื่อกันไม่ให้เชลซี คว้าแชมป์เป็นปีที่สามติดต่อกันในฤดูกาลหน้าได้ (บรรยายเกมโดย boom)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เชลซี
ปีเตอร์ เช็ค 1 ( น. 8)
วิลเลียม กัลลาส 13 ( น.52) ( น. 5)
เปาโล เฟร์เรร่า 20
ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 6 ( น. 73)
จอห์น เทอร์รี่ 26
โจ โคล 10 ( น. 61) ( น. 61)
มิเกล เอสเซียง 5
แฟร้งค์ แลมพาร์ด 8
โคล้ด มาเกเลเล่ 4 ( น. 34)
ดิดิเย่ร์ ดรอกบา 15
อาร์เยน ร็อบเบน 16
สำรอง
คาร์โล คูดิชินี่ 23
เดเมี่ยน ดัฟฟ์ 11 น. 66 อาร์เยน ร็อบเบน 16
เฌเรมี่ 14
นูโน่ มานิเช่ 7 น. 85 ดิดิเย่ร์ ดรอกบา 15
เฮอร์นัน เครสโป 9 น. 76 โจ โคล 10
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
แกรี่ เนวิลล์ 2
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
เนมานย่า วิดิช 15
ไรอัน กิ๊กส์ 11
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 55)
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 66)
หลุยส์ ซาฮา 9
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
เวส บราวน์ 6
ปาทริซ เอฟร่า 3 น. 82 เวย์น รูนี่ย์ 8
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 น. 73 ไรอัน กิ๊กส์ 11
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 น. 64 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
สถิติของเกม
เชลซี ประตู 3, ยิงตรงกรอบ 4, ยิงหลุดกรอบ 6, โดนบล็อค 1, เตะมุม 2, ฟาวล์ 18, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 4, การครองบอล 52%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 5, เตะมุม 3, ฟาวล์ 12, ใบเหลือง 2, การครองบอล 48%
คะแนนความสามารถ
เชลซี ปีเตอร์ เช็ค 7, เปาโล เฟร์เรร่า 7, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 9, จอห์น เทอร์รี่ 7, วิลเลี่ยม กัลลาส 8, อาร์เยน ร็อบเบน 5, โคล้ด มาเกเลเล่ 7, โจ โคล 8, มิเกล เอสเซียง 6, แฟร้งค์ แลมพาร์ด 7, ดิดิเย่ร์ ดรอกบา 6, นูโน่ มานิเช่ (สำรอง) 5, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ (สำรอง) 5, เฮอร์นัน เครสโป (สำรอง) 5
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, เนมานย่า วิดิช 6, มิเกล ซิลแวสตร์ 4, จอห์น โอเชีย 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 4, ไรอัน กิ๊กส์ 5, ปาร์ค จีซุง 4, เวย์น รูนี่ย์ 5, หลุยส์ ซาฮา 5, ปาทริซ เอฟร่า (สำรอง) 5, คีแรน ริชาร์ดสัน (สำรอง) 5, รุด ฟาน นิสเตลรอย (สำรอง) 4
Por

By Dom

Related Post